วันนี้อาจารย์สาขาเรายกสาขาไปฟังการบรรยายของศาสตราจารย์ James A. Matisoff (UC Berkley) เรื่อง "Hearts and Minds in Southeast Asia : Using Parts of Body to Express Qualities of Character and Mental Processes" ที่ HB7 มช.
งานของอาจารย์เป็นงานที่เขียนเพื่อนำเสนอในปี 1985 (ซึ่งฉันเพิ่งจะหกขวบในขณะนั้น 😅) อาจารย์เสนอเรื่องที่ภาษาต่างๆ ในภูมิภาคเอเชียอาคเนย์มักจะสร้างคำที่แสดงถึงอารมณ์ความรู้สึกโดยการนำเอาอวัยวะที่หน้าที่เกี่ยวข้องกับจิต (Psycho-Noun) เช่น ใจ จิต (ในภาษาไทย) มาประสมกับคำที่แสดงลักษณะจิต (Psycho-Mate) ซึ่งอาจมีหน้าที่ของคำเป็นนาม กริยา หรือคุณศัพท์ ฯลฯ ก็ได้ เช่น อ่อน เย็น ตก ฯลฯ (ในภาษาไทย) ซึ่งแตกต่างจากภาษาตะวันตกที่คำแสดงอารมณ์ส่วนใหญ่ไม่ได้สร้างขึ้นด้วยการผูกกับคำนามแสดงอวัยวะ เช่น ตกใจ => be frighten เป็นต้น
ทำให้เกิดไอเดียที่จะเขียนบทความสำหรับนำเสนอ (ถ้าเป็นไปได้ก็อยากนำเสนอที่ Cultural Linguistics Conference) คือเห็นความแตกต่างของคำเหล่านี้
ใจร้อน vs ร้อนใจ
เลือดร้อน vs ✖ ร้อนเลือด
จิตตก vs ✖ ตกจิต
✖ ใจเข้า vs เข้าใจ
ใจหาย vs △ หายใจ (ความหมายไม่เกี่ยวกับ mental)
น่าสนใจจริงๆ ถ้าทำจริงคงสนุกแน่แต่ก็ได้แต่หวังว่า... จะขยันเขียน ไม่เอาแต่คิดอย่างเดียว!
งานของอาจารย์เป็นงานที่เขียนเพื่อนำเสนอในปี 1985 (ซึ่งฉันเพิ่งจะหกขวบในขณะนั้น 😅) อาจารย์เสนอเรื่องที่ภาษาต่างๆ ในภูมิภาคเอเชียอาคเนย์มักจะสร้างคำที่แสดงถึงอารมณ์ความรู้สึกโดยการนำเอาอวัยวะที่หน้าที่เกี่ยวข้องกับจิต (Psycho-Noun) เช่น ใจ จิต (ในภาษาไทย) มาประสมกับคำที่แสดงลักษณะจิต (Psycho-Mate) ซึ่งอาจมีหน้าที่ของคำเป็นนาม กริยา หรือคุณศัพท์ ฯลฯ ก็ได้ เช่น อ่อน เย็น ตก ฯลฯ (ในภาษาไทย) ซึ่งแตกต่างจากภาษาตะวันตกที่คำแสดงอารมณ์ส่วนใหญ่ไม่ได้สร้างขึ้นด้วยการผูกกับคำนามแสดงอวัยวะ เช่น ตกใจ => be frighten เป็นต้น
ทำให้เกิดไอเดียที่จะเขียนบทความสำหรับนำเสนอ (ถ้าเป็นไปได้ก็อยากนำเสนอที่ Cultural Linguistics Conference) คือเห็นความแตกต่างของคำเหล่านี้
ใจร้อน vs ร้อนใจ
เลือดร้อน vs ✖ ร้อนเลือด
จิตตก vs ✖ ตกจิต
✖ ใจเข้า vs เข้าใจ
ใจหาย vs △ หายใจ (ความหมายไม่เกี่ยวกับ mental)
น่าสนใจจริงๆ ถ้าทำจริงคงสนุกแน่แต่ก็ได้แต่หวังว่า... จะขยันเขียน ไม่เอาแต่คิดอย่างเดียว!
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น