ตื่นมาปั่น มคอ.3 ตั้งแต่ยังไม่ตีสี่ดี แม่คุณเอ๊ย มีเวลาตั้งหลายวันไม่ทำชอบให้ไฟลนก้นมาเร่งทำเอาตอนจะต้องส่ง ทำงานแข่งกะเดดไลน์สมองมันตื่นตัวแล่นปรี๊ดก็จริง แต่เหนื่อยชนิดแฝงตัว พองานเสร็จเมื่อไหร่ละเป็นได้สลบ... กว่าจะเสร็จเรียบร้อยทั้งหมด (หมายถึง มคอ.3 ทั้งหมดสี่วิชาน่ะนะ มคอ.7 ค่อยทำที่ญี่ปุ่นแล้วส่งให้ทางเมล น้าน... สรุปว่าโอ้เอ้เอื่อยเฉื่อยจนทำงานได้ครบตามเป้า) เวลาก็ปาเข้าไปเก้าโมงแล้ว พ่อติดรถอานิดมารอที่ รพ.สวนปรุงตั้งแต่แปดโมงกว่าแล้ว รีบอาบน้ำแต่งตัวออกไปรับพ่อ กว่าจะถึงสวนปรุงก็ 11 โมง (พ่อจ๋า แหม่มขอโทษ) แวะเอาหนังสือไปคืนห้องสมุดพายัพแล้วทำยืมต่อ เอางานไปส่งสาขา ถ่ายรูปรวมอาจารย์ประจำสาขาภาษาญี่ปุ่น ขณะทำธุระก็ให้พ่อซื้ออาหารกลางวันรอที่โรงอาหาร
ทุกอย่างเป็นไปอย่างเร่งรีบ เที่ยงกว่าเสร็จธุระที่มหาลัยจึงได้กลับบ้านไปจัดกระเป๋า! ใช่ กระเป๋าเดินทางไปญี่ปุ่นนี่แหละ เพิ่งจัดเมื่อช่วงบ่ายวันนี้ จัดอยู่จนห้าโมงเย็น ใช้เวลาครึ่งวันแต่ก็จัดของได้อย่างน่าทึ่งแหละ กระเป๋าเดินทางขนาด 24 นิ้วหนึ่งใบกับเป้อีกหนึ่งใบใส่เสื้อผ้าได้กว่า 20 ชิ้น รองเท้า 4 คู่ หนังสือ 3 ถุงเท้า ผ้าเช็ดหน้า ของใช้ต่างๆ มั่นใจในศิลปะการจัดกระเป๋าของตัวเองเสมอมา จัดของจนไม่ได้คุยกับพ่อเลย แถมพ่อยังช่วยล้างจานอีกด้วย พ่อช่วยตลอดโดยไม่เคยที่จะไม่พอใจลูกเลยซักครั้ง (เฮ้อ แหม่มเอ๊ย)
ออกจากบ้านก็ช้าอีก กว่าจะฝ่าด่านรถติดไปหาอานิดที่ รพ.สวนปรุง (ซึ่งอาให้เอารถเราจอดที่ รพ. ก่อนแล้วอาจะขับกลับบ้านพ่อให้วันหลัง) จากสวนปรุงไปสนามบิน กัลยาก็ไปถึงสนามเอาตอน 18.30 (เครื่องออก 19.20) ไปติดรอคิวเช็คอินที่เคาน์เตอร์ระหว่างประเทศ (เพิ่งรู้จากแอร์กราวด์ว่าถ้ามีบินต่อเครื่องไปต่างประเทศให้เช็คอินเคาน์เตอร์ระหว่างประเทศเลย) นานมาก กว่าพนักงานจะออกตั๋วให้ผู้โดยสารแต่ละรายปาเข้าไปเกือบคนละสิบนาที คนรอเช็คอินเป็นแถวยาวเฟื้อย การบินไทยก็ไม่เพิ่มเคาน์เตอร์เช็คอินรองรับผู้โดยสาร อันนี้ไม่ปลื้มเลย เวลาผ่านไปจนทุ่มนึงแล้วยังไม่ขยับเขยื้อน กังวลว่าจะตกเครื่อง เดชะบุญที่ขณะรอเช็คอินอยู่นั้นก็มีประกาศว่าไฟลท์ที่เราจะเดินทางดีเลย์ออกไปครึ่งชั่วโมงไม่งั้นกัลยาต้องกลายเป็นผู้โดยสาร last call ไม่ก็ตกเครื่องไปเลย
จบความเร่งรีบ ทิ้งกัลยาก้นดำไว้ที่สนามบินเชียงใหม่ซะแล้วไปเริ่มต้นเป็นกัลยาคนใหม่จากบนฟ้า
เจอน้องเก๋ที่ทางออกขึ้นเครื่อง C3 น้องเป็นคนอัธยาศัยดี มีความคลื่นตรงกันอยู่พอสมควร คงจะเป็นคู่หูที่ดียามไกลบ้านให้กันและกันได้ 😊
ทุกอย่างเป็นไปอย่างเร่งรีบ เที่ยงกว่าเสร็จธุระที่มหาลัยจึงได้กลับบ้านไปจัดกระเป๋า! ใช่ กระเป๋าเดินทางไปญี่ปุ่นนี่แหละ เพิ่งจัดเมื่อช่วงบ่ายวันนี้ จัดอยู่จนห้าโมงเย็น ใช้เวลาครึ่งวันแต่ก็จัดของได้อย่างน่าทึ่งแหละ กระเป๋าเดินทางขนาด 24 นิ้วหนึ่งใบกับเป้อีกหนึ่งใบใส่เสื้อผ้าได้กว่า 20 ชิ้น รองเท้า 4 คู่ หนังสือ 3 ถุงเท้า ผ้าเช็ดหน้า ของใช้ต่างๆ มั่นใจในศิลปะการจัดกระเป๋าของตัวเองเสมอมา จัดของจนไม่ได้คุยกับพ่อเลย แถมพ่อยังช่วยล้างจานอีกด้วย พ่อช่วยตลอดโดยไม่เคยที่จะไม่พอใจลูกเลยซักครั้ง (เฮ้อ แหม่มเอ๊ย)
ออกจากบ้านก็ช้าอีก กว่าจะฝ่าด่านรถติดไปหาอานิดที่ รพ.สวนปรุง (ซึ่งอาให้เอารถเราจอดที่ รพ. ก่อนแล้วอาจะขับกลับบ้านพ่อให้วันหลัง) จากสวนปรุงไปสนามบิน กัลยาก็ไปถึงสนามเอาตอน 18.30 (เครื่องออก 19.20) ไปติดรอคิวเช็คอินที่เคาน์เตอร์ระหว่างประเทศ (เพิ่งรู้จากแอร์กราวด์ว่าถ้ามีบินต่อเครื่องไปต่างประเทศให้เช็คอินเคาน์เตอร์ระหว่างประเทศเลย) นานมาก กว่าพนักงานจะออกตั๋วให้ผู้โดยสารแต่ละรายปาเข้าไปเกือบคนละสิบนาที คนรอเช็คอินเป็นแถวยาวเฟื้อย การบินไทยก็ไม่เพิ่มเคาน์เตอร์เช็คอินรองรับผู้โดยสาร อันนี้ไม่ปลื้มเลย เวลาผ่านไปจนทุ่มนึงแล้วยังไม่ขยับเขยื้อน กังวลว่าจะตกเครื่อง เดชะบุญที่ขณะรอเช็คอินอยู่นั้นก็มีประกาศว่าไฟลท์ที่เราจะเดินทางดีเลย์ออกไปครึ่งชั่วโมงไม่งั้นกัลยาต้องกลายเป็นผู้โดยสาร last call ไม่ก็ตกเครื่องไปเลย
จบความเร่งรีบ ทิ้งกัลยาก้นดำไว้ที่สนามบินเชียงใหม่ซะแล้วไปเริ่มต้นเป็นกัลยาคนใหม่จากบนฟ้า
เจอน้องเก๋ที่ทางออกขึ้นเครื่อง C3 น้องเป็นคนอัธยาศัยดี มีความคลื่นตรงกันอยู่พอสมควร คงจะเป็นคู่หูที่ดียามไกลบ้านให้กันและกันได้ 😊
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น