ประชุมเครือข่ายภาษาญี่ปุ่นและญี่ปุ่นศึกษาทั้งวัน ครั้งนี้รู้สึกว่ามีประเด็นพูดคุยกันเยอะมาก รวมทั้งการบ่นถึงปริมาณงานที่มีมากของหัวหน้าศูนย์และประธานเครือข่ายก็เยอะด้วย ทั้งที่ประชุมอบอวลไปด้วยพลังงานด้านลบ 😩 อีกอย่างที่รู้สึกว่ามันไม่ใช่คือการที่ระดับหัวของเครือข่ายชอบชงคำถามว่า
"จะมีมหาลัยไหนอาสาทำกิจกรรมนี้บ้าง ขอเสียงหน่อย"
จริงๆ หลายกิจกรรมก็น่าสนใจที่จะทำอยู่แต่พวกเขาไม่เข้าใจบ้างเลยหรือไงว่าสมาชิกจากมหาลัยต่างๆ ที่มาเข้าประชุมนั้นล้วนเป็น "ตัวแทน" ของมหาลัยตนเองทั้งนั้น ไม่สามารถจะตัดสินใจลำพังได้ต้องหารือกับทีมก่อน... คิดว่าคงไม่เข้าใจเพราะเห็นหน้าบูดกันอยู่เรื่อยเวลาไม่มีใครยกมืออาสา แต่ก็ไม่หาทางแก้ไข เช่น ทำแผนกิจกรรมประจำปีส่งให้มหาลัยแต่ละแห่งพิจารณาก่อนล่วงหน้า อะไรซักที
แต่ถึงไม่ได้ยกมืออาสาฉันก็ได้มาแล้วสองงานคือ พิธีมอบทุน (ที่ได้มาตั้งแต่ประชุมคราวก่อน) กับงานแปลตำราญี่ปุ่นธุรกิจที่ อ.ทานากะ กับ อ.ยามากิ เขียนร่วมกัน... แต่ฉันยินดีนะงานนี้
ส่วนแม่... แม่โทรมาช่วงเช้าก่อนฉันจะออกไปประชุมบอกว่าศาลยื่นข้อเสนอว่าถ้าปิดบัญชีหนี้ภายในวันที่ 5 จะลดดอกเบี้ยให้ 30% ซึ่งเป็นการประนอมหนี้ที่ปราณีมาก แต่ปัญหาคือฉันจะต้องถอนเงินในกองทุนออกมาทั้งหมดถึงจะพอจ่ายหนี้ก้อนหนึ่ง (ที่ใหญ่) กว่าของแม่ได้
ก็เสียดายอยู่หรอก เงินทองที่สู้อุตส่าห์สะสมมา แต่ก็สงสารแม่มากกว่าที่ใช้ชีวิตแบบคนมีหนี้สินรุงรังมาตลอดชีวิต ถ้าช่วยได้ก็อยากจะช่วยปลดหนี้ให้แก และฉันก็เริ่มเข้าใจชะตาชีวิตตัวเองที่แม้ว่าจะพยายามเก็บหอมรอมริบขนาดไหนก็จะต้องเสียเงินก้อนนั้นไปโดยคนอื่นอยู่เสมอ แค่หวังว่าขอให้มีเงินเพียงพอใช้เวลาจะทำอะไรๆ ได้ก็โอ หากกรรมเก่ามันสลายไปเมื่อไหร่คงจะมีเงินเก็บเงินก้อนกับเขาบ้าง
"จะมีมหาลัยไหนอาสาทำกิจกรรมนี้บ้าง ขอเสียงหน่อย"
จริงๆ หลายกิจกรรมก็น่าสนใจที่จะทำอยู่แต่พวกเขาไม่เข้าใจบ้างเลยหรือไงว่าสมาชิกจากมหาลัยต่างๆ ที่มาเข้าประชุมนั้นล้วนเป็น "ตัวแทน" ของมหาลัยตนเองทั้งนั้น ไม่สามารถจะตัดสินใจลำพังได้ต้องหารือกับทีมก่อน... คิดว่าคงไม่เข้าใจเพราะเห็นหน้าบูดกันอยู่เรื่อยเวลาไม่มีใครยกมืออาสา แต่ก็ไม่หาทางแก้ไข เช่น ทำแผนกิจกรรมประจำปีส่งให้มหาลัยแต่ละแห่งพิจารณาก่อนล่วงหน้า อะไรซักที
แต่ถึงไม่ได้ยกมืออาสาฉันก็ได้มาแล้วสองงานคือ พิธีมอบทุน (ที่ได้มาตั้งแต่ประชุมคราวก่อน) กับงานแปลตำราญี่ปุ่นธุรกิจที่ อ.ทานากะ กับ อ.ยามากิ เขียนร่วมกัน... แต่ฉันยินดีนะงานนี้
ส่วนแม่... แม่โทรมาช่วงเช้าก่อนฉันจะออกไปประชุมบอกว่าศาลยื่นข้อเสนอว่าถ้าปิดบัญชีหนี้ภายในวันที่ 5 จะลดดอกเบี้ยให้ 30% ซึ่งเป็นการประนอมหนี้ที่ปราณีมาก แต่ปัญหาคือฉันจะต้องถอนเงินในกองทุนออกมาทั้งหมดถึงจะพอจ่ายหนี้ก้อนหนึ่ง (ที่ใหญ่) กว่าของแม่ได้
ก็เสียดายอยู่หรอก เงินทองที่สู้อุตส่าห์สะสมมา แต่ก็สงสารแม่มากกว่าที่ใช้ชีวิตแบบคนมีหนี้สินรุงรังมาตลอดชีวิต ถ้าช่วยได้ก็อยากจะช่วยปลดหนี้ให้แก และฉันก็เริ่มเข้าใจชะตาชีวิตตัวเองที่แม้ว่าจะพยายามเก็บหอมรอมริบขนาดไหนก็จะต้องเสียเงินก้อนนั้นไปโดยคนอื่นอยู่เสมอ แค่หวังว่าขอให้มีเงินเพียงพอใช้เวลาจะทำอะไรๆ ได้ก็โอ หากกรรมเก่ามันสลายไปเมื่อไหร่คงจะมีเงินเก็บเงินก้อนกับเขาบ้าง
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น