ตั้งแต่เทอมนี้วันพุธจะเป็นวันที่ไม่มีการเรียนการสอนเพื่อให้นักศึกษาได้ทำกิจกรรม วันนี้เป็นวันพุธแรกของเทอม ฉันนึกว่าจะสบายๆ ซะแล้ว ที่ไหนได้ มึนหนักกว่าวันมีสอนอีกเพราะมีประชุมสามรายการตั้งแต่เช้ายันเย็น
9:00-12:30 โครงการอบรมเลขานุการคณะกรรมการประกันคุณภาพการศึกษาภายใน ระดับหลักสูตร
เขาว่าต่อไปนี้การประเมินคุณภาพจะทำในลักษณะ "พิชญพิจารณ์ (Peer review)" หมายถึง การตรวจเยี่ยมโดยผู้ทรงคุณวุฒิที่มีความรู้ความสามารถและประสบการณ์ซึ่งสามารถให้ข้อสังเกตและข้อเสนอแนะเชิงพัฒนา (อ้างจาก dent.chula.ac.th) โดยการตรวจจะทำอย่างเพื่อนคุยกับเพื่อนมากกว่าการตรวจแบบผู้ประเมินกับผู้รับการประเมิน มึนค่ะเรื่องใหม่มากสำหรับฉัน เรียนไปมึนไป ต้องคิดคะแนนประเมินด้วยการแทนค่าในสูตรคำนวณด้วย แล้วก็ต้องเข้าไปประเมินในระบบเช คิวเอด้วย เอาจริงๆ มันก็ไม่ได้ยากเกินไปหรอกแต่มันมีขั้นตอนเยอะ ต้องทำจนคุ้นเคยซักหน่อยคงจะหายมึน ฮ่าๆๆ
13:30-14:45 ประชุมนัดนี้มาแบบกระทันหันไม่ทันตั้งตัว คิดว่าจะได้พักบ้างไรบ้างก่อนจะประชุม Work load plan อยู่ๆ อ.ต้นก็มาบอกให้อาจารย์ที่ยังไม่มีผลงานทางวิชาการไปเข้าประชุมที่ห้องประชุมคณะ อ่า... และประชุมก็กลายประชุมที่สร้างความกดดันในฉันที่สุด เพราะ อ.เป้า (นงนภัส) และ อ.พัชร (คณบดี) ประกาศว่าอาจารย์ท่านใดที่เป็นอาจารย์ประจำหลักสูตรจะต้องมีผลงานวิชาการ เช่น บทความที่ได้รับการตีพิมพ์หรือการรับรองว่าจะได้พิมพ์ภายใน พ.ย. นี้เพราะในเดือนนั้นจะมีการพิจารณา มคอ.2 ของหลักสูตรใหม่ที่จะเริ่มใช้ปี 2560 ดังนั้นอาจารย์ประจำหลักสูตรก็ต้องมีคุณสมบัติครบถ้วนตามข้อกำหนด ไม่เช่นนั้นจะไม่สามารถเปิดหลักสูตรใหม่และรับนักศึกษาเข้าเรียนในปี 60 ได้(;゜0゜)สำหรับสาขาญี่ปุ่นที่ส่งตำราให้พิจารณาแล้วก็ควรต้องเขียนบทความด้วยเนื่องจากคณะกรรมการกลั่นกรองชุดแรกตรวจตำราแล้วพบข้อบกพร่องหลายจุด ดังนั้นตำราของพวกเรามีแนวโน้มที่จะเสร็จสมบูรณ์ไม่ทัน พ.ย. (−_−;) นี่เกี่ยวข้องกับฉันโดยตรงเลย
15:00-16:30 ประชุมสาขาเรื่อง Work load plan อันนี้เป็นไปด้วยดีไม่มีปัญหาอะไร เทอมนี้ได้มากกว่าเป้าหมายที่ตั้งไว้ 35 ภารกิจนิดหน่อย
ทั้งหมดทั้งมวลของวันนี้ทำให้ฉันตระหนักว่าต้องเร่งผลิตผลงานทางวิชาการแล้ว ไม่ใช่แค่คิดฝันว่าจะทำแต่ไม่ลงมือซักที ตอนนี้ถูกหน้าที่การงานเร่งให้ทำให้เป็นรูปเป็นร่างโดยเร็วเพราะถ้าไม่ทำก็หมายถึงการหยุดชะงักของการดำเนินงานของสาขาวิชา คิดผิวเผินก็เหมือนเจอบทโหดแต่พอคิดลึกๆ อีกที แบบนี้ก็ดีเหมือนกัน เป็นไฟลท์บังคับให้สร้างผลงานซะที
อีกสิ่งหนึ่งที่รู้สึกวันนี้คือรู้สึกว่าตัวเองโชคดีที่มีคนคอยช่วยเหลือ ให้คำแนะนำและกำลังใจในการเขียนบทความวิชาการครั้งนี้เยอะแยะมากมาย ทั้ง อ.มิเอะ อ.มิโฮโกะ อ.ต้น อ.เป้า ไม่ว่าทุกคนจะเอาใจช่วยเพราะถ้าฉันไม่มีผลงานก็เปิดหลักสูตรไม่ได้ก็เถอะ นี่ถ้ายังทำงานบริษัทอยู่คงไม่มีวันได้เริ่มต้นแน่ๆ
ขอบคุณมหาวิทยาลัยพายัพ
9:00-12:30 โครงการอบรมเลขานุการคณะกรรมการประกันคุณภาพการศึกษาภายใน ระดับหลักสูตร
เขาว่าต่อไปนี้การประเมินคุณภาพจะทำในลักษณะ "พิชญพิจารณ์ (Peer review)" หมายถึง การตรวจเยี่ยมโดยผู้ทรงคุณวุฒิที่มีความรู้ความสามารถและประสบการณ์ซึ่งสามารถให้ข้อสังเกตและข้อเสนอแนะเชิงพัฒนา (อ้างจาก dent.chula.ac.th) โดยการตรวจจะทำอย่างเพื่อนคุยกับเพื่อนมากกว่าการตรวจแบบผู้ประเมินกับผู้รับการประเมิน มึนค่ะเรื่องใหม่มากสำหรับฉัน เรียนไปมึนไป ต้องคิดคะแนนประเมินด้วยการแทนค่าในสูตรคำนวณด้วย แล้วก็ต้องเข้าไปประเมินในระบบเช คิวเอด้วย เอาจริงๆ มันก็ไม่ได้ยากเกินไปหรอกแต่มันมีขั้นตอนเยอะ ต้องทำจนคุ้นเคยซักหน่อยคงจะหายมึน ฮ่าๆๆ
13:30-14:45 ประชุมนัดนี้มาแบบกระทันหันไม่ทันตั้งตัว คิดว่าจะได้พักบ้างไรบ้างก่อนจะประชุม Work load plan อยู่ๆ อ.ต้นก็มาบอกให้อาจารย์ที่ยังไม่มีผลงานทางวิชาการไปเข้าประชุมที่ห้องประชุมคณะ อ่า... และประชุมก็กลายประชุมที่สร้างความกดดันในฉันที่สุด เพราะ อ.เป้า (นงนภัส) และ อ.พัชร (คณบดี) ประกาศว่าอาจารย์ท่านใดที่เป็นอาจารย์ประจำหลักสูตรจะต้องมีผลงานวิชาการ เช่น บทความที่ได้รับการตีพิมพ์หรือการรับรองว่าจะได้พิมพ์ภายใน พ.ย. นี้เพราะในเดือนนั้นจะมีการพิจารณา มคอ.2 ของหลักสูตรใหม่ที่จะเริ่มใช้ปี 2560 ดังนั้นอาจารย์ประจำหลักสูตรก็ต้องมีคุณสมบัติครบถ้วนตามข้อกำหนด ไม่เช่นนั้นจะไม่สามารถเปิดหลักสูตรใหม่และรับนักศึกษาเข้าเรียนในปี 60 ได้(;゜0゜)สำหรับสาขาญี่ปุ่นที่ส่งตำราให้พิจารณาแล้วก็ควรต้องเขียนบทความด้วยเนื่องจากคณะกรรมการกลั่นกรองชุดแรกตรวจตำราแล้วพบข้อบกพร่องหลายจุด ดังนั้นตำราของพวกเรามีแนวโน้มที่จะเสร็จสมบูรณ์ไม่ทัน พ.ย. (−_−;) นี่เกี่ยวข้องกับฉันโดยตรงเลย
15:00-16:30 ประชุมสาขาเรื่อง Work load plan อันนี้เป็นไปด้วยดีไม่มีปัญหาอะไร เทอมนี้ได้มากกว่าเป้าหมายที่ตั้งไว้ 35 ภารกิจนิดหน่อย
ทั้งหมดทั้งมวลของวันนี้ทำให้ฉันตระหนักว่าต้องเร่งผลิตผลงานทางวิชาการแล้ว ไม่ใช่แค่คิดฝันว่าจะทำแต่ไม่ลงมือซักที ตอนนี้ถูกหน้าที่การงานเร่งให้ทำให้เป็นรูปเป็นร่างโดยเร็วเพราะถ้าไม่ทำก็หมายถึงการหยุดชะงักของการดำเนินงานของสาขาวิชา คิดผิวเผินก็เหมือนเจอบทโหดแต่พอคิดลึกๆ อีกที แบบนี้ก็ดีเหมือนกัน เป็นไฟลท์บังคับให้สร้างผลงานซะที
อีกสิ่งหนึ่งที่รู้สึกวันนี้คือรู้สึกว่าตัวเองโชคดีที่มีคนคอยช่วยเหลือ ให้คำแนะนำและกำลังใจในการเขียนบทความวิชาการครั้งนี้เยอะแยะมากมาย ทั้ง อ.มิเอะ อ.มิโฮโกะ อ.ต้น อ.เป้า ไม่ว่าทุกคนจะเอาใจช่วยเพราะถ้าฉันไม่มีผลงานก็เปิดหลักสูตรไม่ได้ก็เถอะ นี่ถ้ายังทำงานบริษัทอยู่คงไม่มีวันได้เริ่มต้นแน่ๆ
ขอบคุณมหาวิทยาลัยพายัพ
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น