วันนี้มีโอกาสได้ไปเยือนเมืองพร้าวเพราะพี่ยีนให้ช่วยพาไปเอาของที่นั่น ทราบมานานแล้วว่าพร้าวเป็นเมืองที่หลวงปู่แหวน สุจิณโณจำพรรษาขณะยังดำรงชีพอยู่ ดังนั้น เมื่อมีโอกาสจึงพลาดไม่ได้ที่จะแวะวัดดอยแม่ปั๋งไปกราบนมัสการอัฐิธาตุของท่าน
วัดดอยแม่ปั๋งมีบริเวณกว้างขวาง ร่มรื่น สัปปายะมาก ประกอบด้วยกุฏิ อาคารต่างๆ ที่อนุรักษ์ให้คงสภาพเดิมไว้ เราเดินชมสถานที่ต่างๆ พร้อมกับซึมซับเรื่องราวประวัติของหลวงปู่แหวนจากป้ายที่ทางวัดจัดทำไว้ ที่สะดุดใจฉันมากที่สุดคือ กุฏิย่างกิเลส
จากป้ายทำให้เรารู้ว่าหลวงปู่แหวนเคยอาพาธเป็นโรคคันทั่วร่างกายจึงก่อไฟย่างตัวเองภายในกุฏิหลังนี้จนกระทั่งหายจากอาการอาพาธ หลวงปู่จึงเรียกกุฏิหลังนี้ว่า "กุฏิย่างกิเลส" แต่โดยทั่วไปจะเรียกกันว่า "กุฏิโยไฟ"
ฉันก็มักคันตามร่างกาย ถ้าอยากหายต้องก่อไฟย่างตัวเองด้วยรึเปล่า ย่างตัวเองแล้วฉันจะหายจากโรคหรือหายจากโลกกันนะ (*_*;
วัดดอยแม่ปั๋งมีบริเวณกว้างขวาง ร่มรื่น สัปปายะมาก ประกอบด้วยกุฏิ อาคารต่างๆ ที่อนุรักษ์ให้คงสภาพเดิมไว้ เราเดินชมสถานที่ต่างๆ พร้อมกับซึมซับเรื่องราวประวัติของหลวงปู่แหวนจากป้ายที่ทางวัดจัดทำไว้ ที่สะดุดใจฉันมากที่สุดคือ กุฏิย่างกิเลส
จากป้ายทำให้เรารู้ว่าหลวงปู่แหวนเคยอาพาธเป็นโรคคันทั่วร่างกายจึงก่อไฟย่างตัวเองภายในกุฏิหลังนี้จนกระทั่งหายจากอาการอาพาธ หลวงปู่จึงเรียกกุฏิหลังนี้ว่า "กุฏิย่างกิเลส" แต่โดยทั่วไปจะเรียกกันว่า "กุฏิโยไฟ"
ฉันก็มักคันตามร่างกาย ถ้าอยากหายต้องก่อไฟย่างตัวเองด้วยรึเปล่า ย่างตัวเองแล้วฉันจะหายจากโรคหรือหายจากโลกกันนะ (*_*;
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น