เป็นมือใหม่ขับรถมาครึ่งปีได้แผลจากการชนขอบฟุตบาท เบียดกำแพง ครูดรั้วเพียบจนช่วงกันชน บังโคลนหน้าและประตูหลังซ้ายขี้ริ้วขี้เหร่ วันนี้เลยตัดสินใจเรียกประกันมาเคลมเพื่อส่งซ่อมซะทีเนื่องจากเดือนหน้าจะไปต่างประเทศสิบวันจะได้ส่งซ่อมช่วงนั้น ฤกษ์สะดวกดี
ไม่เคยรู้รายละเอียดเรื่องประกันภัยรถยนต์มาก่อนจนกระทั่งพี่ยีน (ซึ่งเคยรับการอบรมตัวแทนประกันภัยรถยนต์) อธิบายถึงความแตกต่างของประกันภัยชนิดต่างๆ ให้ฟัง คร่าวๆ ว่าประกันชั้นหนึ่งนั้นครอบคลุมค่าใช้จ่ายในการซ่อมทั้งในกรณีเกิดอุบัติเหตุแบบมีและไม่มีคู่กรณี ในขณะที่ประกันชั้นสองจะครอบคลุมเฉพาะกรณีมีคู่กรณีเท่านั้น ฯลฯ
ฟังดูแล้วการซื้อประกันรถยนต์ก็เหมือนเราจ่ายเงินค่าซ่อมรถไว้ล่วงหน้า หากเกิดเหตุเราก็เรียกใช้เงินส่วนนี้ในการซ่อมรถ (ซึ่งวงเงินจะได้มากกว่าที่ซื้อประกันไว้ แล้วแต่เงื่อนไขของแต่ละบริษัท) แต่ถ้าตลอดระยะสัญญา (โดยทั่วไปคือ 1 ปี) ไม่มีเหตุใดๆ ที่ก่อให้เกิดความเสียหายกับรถเลยก็เหมือนเราจ่ายเงินให้ประกันเปล่าๆ เพราะความกลัวสิ่งที่ยังไม่เกิดขึ้นสินะ
มนุษย์ทั่วไปล้วนมีกิเลสและความกลัว มนุษย์หัวใสจึงหากินกับกิเลสและความกลัวนั้น
ไม่เคยรู้รายละเอียดเรื่องประกันภัยรถยนต์มาก่อนจนกระทั่งพี่ยีน (ซึ่งเคยรับการอบรมตัวแทนประกันภัยรถยนต์) อธิบายถึงความแตกต่างของประกันภัยชนิดต่างๆ ให้ฟัง คร่าวๆ ว่าประกันชั้นหนึ่งนั้นครอบคลุมค่าใช้จ่ายในการซ่อมทั้งในกรณีเกิดอุบัติเหตุแบบมีและไม่มีคู่กรณี ในขณะที่ประกันชั้นสองจะครอบคลุมเฉพาะกรณีมีคู่กรณีเท่านั้น ฯลฯ
ฟังดูแล้วการซื้อประกันรถยนต์ก็เหมือนเราจ่ายเงินค่าซ่อมรถไว้ล่วงหน้า หากเกิดเหตุเราก็เรียกใช้เงินส่วนนี้ในการซ่อมรถ (ซึ่งวงเงินจะได้มากกว่าที่ซื้อประกันไว้ แล้วแต่เงื่อนไขของแต่ละบริษัท) แต่ถ้าตลอดระยะสัญญา (โดยทั่วไปคือ 1 ปี) ไม่มีเหตุใดๆ ที่ก่อให้เกิดความเสียหายกับรถเลยก็เหมือนเราจ่ายเงินให้ประกันเปล่าๆ เพราะความกลัวสิ่งที่ยังไม่เกิดขึ้นสินะ
มนุษย์ทั่วไปล้วนมีกิเลสและความกลัว มนุษย์หัวใสจึงหากินกับกิเลสและความกลัวนั้น
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น