ข้ามไปที่เนื้อหาหลัก

บทความ

กำลังแสดงโพสต์จาก มีนาคม, 2017

เหนือความคาดหมาย

ภาพเมื่อไปนิเทศระยองกับ อ.มิโฮโกะ วันนี้ก่อนเลิกงานเล็กน้อยมีเรื่องให้ช็อคเมื่ออาจารย์มิโฮโกะแจ้งให้ทุกคนทราบว่าจะทำงานที่นี่ถึงสิ้นเดือนพฤษภาคมนี้เพราะอยากลาออกไปให้เวลาเตรียมตัวสอบใบอนุญาตเป็นครูอนุบาลแบบมอนเตสเซอรี่ซึ่งเป็นก้าวแรกในการสานฝันที่จะเปิดกิจการโรงเรียนอนุบาลที่ช่วยสร้างเด็กเล็กให้มีพัฒนาการที่ดีสมวัยตามธรรมชาติ ความฝันของอาจารย์สวยงามน่าสนับสนุนแต่ก็อดใจหายไม่ได้ที่เพื่อนร่วมงานดีๆ จะจากเราไป ตอนที่ฟังอาจารย์แจ้งข่าวให้ทราบก็แอบน้ำตาคลอนิดๆ ก่อนหน้านี้อาจารย์เปลี่ยนแผนว่าจะออกเมื่อสิ้นการศึกษาหน้า แต่ก็มีเหตุบางอย่างเกี่ยวกับสภาพจิตใจในที่ทำงานที่ทำให้รู้สึกอึดอัด ประกอบกับถูกหัวหน้าสาขาสะกิดในเรื่องเข้าเมื่อวานนี้จึงตัดสินใจออกเร็วขึ้น ฉันคิดว่าเรื่องนี้ไม่มีใครถูกใครผิด ความอึดอัดในที่ทำงานที่อาจารย์รู้สึกน่าจะเกิดจากการที่สมาชิกในสาขาพูดคุยสื่อสารกันน้อยโดยเฉพาะการพูดคุยกันระหว่างอาจารย์ชาวไทยกับชาวญี่ปุ่น ฉันก็ได้แต่หวังว่าสถานการณ์ต่างๆ จะค่อยๆ ดีขึ้นหลังจากที่ได้พูดคุยเปิดใจกันในวันนี้

ไปสบายนะเจ้าหมา

ไปสู่สุคตินะเจ้าหมา ผ่านช่วงวันสารพัดกิจกรรมจนวันนี้ได้กลับบ้านก่อนมืดเสียทีจึงแวะไปไว้อาลัยให้น้องหมาที่หลุมศพใต้ต้นขนุนริมน้ำปิงในบริเวณบ้านพี่ยีน พี่ยีนเล่าว่ามันเริ่มไม่มีเรี่ยวแรงขยับตัวตั้งแต่คืนวันอังคาร นอนแบ่บอยู่ข้างผนังบ้านจนมดกัดก็ไม่มีกำลังแม้แต่จะปัดมดออกด้วยตัวเอง พี่ยีนได้ยินเสียงมันครางเอ๋งๆ ถึงได้ช่วยเปลี่ยนที่นอนให้มัน คิดว่ามันคงไม่พ้นคืนนั้นแต่มันอึดมาก พยายามหายใจยื้อชีวิตไว้จนถึงช่วงสายของเมื่อวาน ฉันเสียใจที่ไม่ได้ดูใจ ลูบหัวอำลามันเป็นครั้งสุดท้าย รู้สึกเศร้าเล็กน้อยแต่ก็คิดซะว่าหมามันได้แสดงธรรมให้ดูเป็นบุญสุดท้ายก่อนจากไป ขอให้ไปสู่สุคตินะลูก ชาติภพใหม่ขอให้ได้เกิดเป็นมนุษย์ได้พบธรรมของพระพุทธเจ้านะลูกนะ หลุมศพใต้ต้นขนุนริมน้ำปิง รู้สึกเอ็นดูและอาลัยเจ้าหมาจนซึมๆ ไปนิดหน่อยแต่หลังจากเข้าบ้านได้เห็นรูปตัวเองที่กำลังถ่ายหลุมศพหมาเป็นที่ระลึกที่พี่ยีนส่งมาให้แล้วจากซึมกลายเป็นน้ำตาเล็ด... ถ่ายภาพแบบนี้มาได้ยังไงคะ กริยาอาการนี่น่าอายที่สุด (/ω\) ท่าถ่ายรูป (/ω\)

ข่าวดีและข่าวร้าย

ภาพสุดท้ายก่อนน้องหมาจะจากไป วันนี้มีทั้งข่าวดีและข่าวร้าย ข่าวดีคือระหว่างที่ออกไปทัศนศึกษาโรงงานญี่ปุ่นในนิคมอุตสาหกรรม จ.ลำพูน ในโครงการของเครือข่ายภาษาญี่ปุ่นภาคเหนือได้นั่งติดกับอาจารย์สรัญญาซึ่งกำลังจะจัดโครงการเสริมสร้างประสบการณ์อาชีพล่ามในสถานประกอบการญี่ปุ่นในกับนักศึกษามหาวิทยาลัยเชียงใหม่ในวันที่ 22 เมษาที่จะถึงนี้ อาจารย์ได้เกียรติเชิญฉันไปเป็นวิทยากรเชิงปฏิบัติการ (guest speaker & workshop) ในภาคเช้า ดีใจมากที่ได้รับโอกาสสำคัญที่จะได้นำความรู้ที่ตัวเองเชี่ยวชาญที่สุดไปเผยแพร่ ข่าวร้ายคือก่อนเที่ยงเล็กน้อยขณะที่กำลังสนุกกับการชมโรงงาน UTAX ซึ่งผลิตชุดชั้นในไร้ตะเข็บส่งออกก็ได้รับไลน์จากพี่ยีนว่าเจ้าหมาป่วยที่มักจะมารับฉันตอนกลับบ้านได้จากโลกนี้ไปแล้ว รู้สึกเสียใจแต่ก็คิดว่ามันไปสบายแล้วไม่ต้องทรมานกับอาการป่วยอีกต่อไป ขอให้ไปเกิดในภพภูมิที่สูงขึ้นนะเจ้าหมานะ

นิฮงไซพายัพ

สมาชิกซุ้มโอริกามิ-ฟุโรชิขิ หมิวกับออมโชว์ศิลปะฟุโรชิขิ ผ่านไปด้วยดีสำหรับงานนิทรรศการญี่ปุ่น (นิฮงไซ) ตัดสินใจถูกแล้วที่ลดขนาดงานให้เล็กลงเพราะควบคุมจัดการง่ายและทำให้คนที่มาร่วมงานจำนวนน้อยดูเหมือนมาก ตามแผนเดิมจะให้มีการสาธิตวัฒนธรรมญี่ปุ่นโดยซุ้มทั้งหก แต่พอเอาจริงมีเพียงซุ้มฟุโรชิขิที่ฉันดูแลอยู่ได้ขึ้นสาธิตบนเวทีเพียงรายการเดียว เพราะไม่ค่อยมีคนนอกดู ฉันดีใจที่เด็กๆ ในความดูแลได้ขึ้นโชว์ห่อของด้วยผ้าฟุโรชิขิเพราะซ้อมกันมาเป็นอาทิตย์

ลิตเติ้ลเชียงใหม่

Little Chiang Mai ในที่สุดก็ได้หนังสือแนะนำเชียงใหม่สุดเก๋ "Little Chiang Mai" มาครองจนได้ จะว่าเป็นหนังสือก็ไม่ถูกต้องนัก เรียกว่าเป็นชุดหนังสือเล็กๆ (a set of booklets) น่าจะถูกต้องกว่า ราคา 950 บาทถือว่าแพงไม่ใช่เล่น แต่คิดว่าซื้อเพราะชื่นชมในการออกแบบสิ่งพิมพ์ให้น่าสนใจ (สไตล์คล้าย a day) จึงสอยมา พอเปิดอ่านเนื้อหาในเล่มแล้วก็รู้สึกอยากไปตามรอยทุกที่เลยโดยเฉพาะเส้นทางวิ่งและจักรยาน งานดี พิถีพิถัน

สิมิลัน... สวรรค์อันดามัน

ฉันไม่เคยเห็นทะเลที่สวยขนาดนี้มาก่อนเลย ต้องขอบคุณน้องนะมากๆ ที่ให้ฉันติดตามไปสำรวจบริการทัวร์ของบริษัท Like Andaman ในโปรแกรมทัวร์หมู่เกาะสิมิลัน 1 วันโดยไม่เสียค่าใช้จ่ายอะไรเลย ทั้งที่ราคาทัวร์ที่เริ่มต้นจากกระบี่มีราคาสูงถึง 4,400 บาท (อ้างอิงจาก http://www.likeandaman.com) หาดปริ๊นเซส เกาะสี่ เรือหยุดให้พวกเราดำน้ำชมปะการังที่เกาะเจ็ดเป็นแห่งแรก จุดนี้ไม่อนุญาตให้นักท่องเที่ยวขึ้นหาดเพราะเป็นพื้นที่อนุรักษ์สำหรับเพาะพันธุ์เต่าทะเล หลังจากนั้นก็พาไปแวะเกาะสี่ (หรืออีกชื่อคือเกาะเมี่ยง) ให้ทานข้าวและพักผ่อนที่นั่นหนึ่งชั่วโมง หาดด้านที่ให้นักท่องเที่ยวทานข้าวมีน้ำใสเหมือนกระจก เราก็ตื่นเต้นกันมากแล้วแต่เมื่อเดินทะลุเกาะไปหาดปริ๊นเซสที่อยู่อีกด้านหนึ่ง ยิ่งตะลึงหาดทรายนุ่มขาวน้ำทะเลสีฟ้าครามใสกิ๊ง เราอยู่ที่เกาะสี่ได้ไม่นานก็เดินทางต่อไปดำน้ำที่เกาะเก้า จากนั้นจึงไปแวะที่เกาะแปดที่มีหินเรือใบสัญลักษณ์ของหมู่เกาะสิมิลันตั้งอยู่ เกาะแปดก็สวยไม่แพ้เกาะสี่ น้ำสีสวยใสดีต่อใจมาก ยิ่งถ้าขึ้นไปบนหยุดชมวิวแล้วมองลงมาจะเห็นน้ำทะเลหลากสีตามความลึก ประทับใจมาก อยากจะกลับมาอีก...

ชมรายาวดี

อ่านหนังสือริมหาดนพฯ ยามเย็น นิเทศครั้งนี้เสาวลักษณ์ได้ย้ายไปอยู่ฝ่ายรับรองลูกค้าและได้ดูแลความเป็นอยู่ ณ รายาวดีของลูกค้าญี่ปุ่นในหลายๆ แง่มุมทำให้สนุกกับงานมากขึ้นเพราะได้ใช้ภาษาญี่ปุ่นที่ได้เรียนมามากขึ้นและรู้สึกท้าทายความสามารถเพราะไม่รู้ว่าแต่ละวันจะเจอปัญหาอะไร แม้จะพูดญี่ปุ่นถูกบ้างผิดบ้างแต่พี่เลี้ยงและเพื่อนร่วมงานต่างก็ชื่นชมในความขยันตั้งใจทำงานของเธอ ข้อบกพร่องอื่นก็คือเรื่องรายงานประจำสัปดาห์ที่ขาดๆ หายๆ เรื่องเดิมนั่นแหละ ก็ต้องจ้ำจี้จ้ำไชกันต่อไป The Grotto, Rayavadee ด้วยกำหนดการนิเทศเป็นช่วงเช้า (ตั้งแต่ 10 โมง) และการนัดหมายติดต่อโดยตรงกับฝ่ายบุคคลและนัดล่วงหน้านานพอสมควรทำให้โรงแรมสามารถจัดเวลานำชมบริเวณโดยรอบและห้องพักได้ ฉันจึงมีโอกาสได้ชื่นชมความงามหรูดูแพงของที่นี่โดยการนำชมของคุณปัจรีย์ แถมยังได้ทานอาหารที่แคนทีนของเขา ได้เห็นวิถีชีวิตบางเสี้ยวมุมคนโรงแรมด้วย หาดไร่เลย์... ชายคนนี้ใคร  : p นิเทศเสร็จ เดิมทีอยากจะนั่งอ่านหนังสือชิลๆ ริมหาด แต่พอเจอแดดเปรี้ยงปร้างเหมือนจะผ่ากลางหัวแล้วก็เปลี่ยนใจลงเรือกลับไปพักผ่...

บุ๊คสมิธสนามบิน

Book Smith สาขาสนามบินเชียงใหม่ วาร์ปจากเชียงใหม่มากระบี่อีกแล้ว รู้สึกเหนื่อยกับการนั่งเครื่องบินจนอยากจะยืมประตูสารพัดสถานที่ของโดราเอม่อนมาใช้ การมาครั้งนี้ก็เพื่อนิเทศนักศึกษาฝึกงานครั้งที่ 2 ในวันเดียวกันนี้ค้อปเตอร์ก็เดินทางไกลไปทัศนศึกษากับโรงเรียนที่บึงบอระเพ็ด เรียกว่าเดินทางไกลกันทั้งป้าและหลานชาย ที่รู้เพราะน้องสะใภ้ส่งไลน์เข้ากลุ่มครอบครัวตอนไปส่งหลานขึ้นรถเมื่อเช้า การตื่นตัวกับการส่งสมาชิกในครอบครัวเดินทางไกลเป็นเรื่องอบอุ่นใจ ทำให้รู้สึกถึงสายใยรักในครอบครัว ย้อนกลับมาที่ผู้หญิงตัวคนเดียวอย่างฉันขณะกำลังรอขึ้นเครื่องสนามบินเชียงใหม่ ก่อนจะผ่านด่านตรวจสัมภาระหน้าห้องรอขึ้นเครื่องฉันเดินเล่นดูร้านรวงที่อยู่ชั้น 2 และพบสาขาของ "เดอะ บุ๊คสมิธ" ร้านหนังสือสุดชิคในเมืองเชียงใหม่ ที่แผงหนังสือโชว์หน้าร้านมีหนังสือนำเที่ยวเชียงใหม่หน้าตาเก๋ที่หมายตาไว้ คือ "Little Chiang Mai" วางอยู่ 6-7 เล่ม ฉันดีใจมากสอยมาหนึ่งเล่มทันที แต่ฝากไว้กับทางร้านก่อนแล้วค่อยมาเอาขากลับ ตัดสินใจถูกต้องแล้วที่ไม่สั่งซื้อทางไปรษณีย์ ไม่งั้นจะต้องรอนานและเสียค่าจัดส่งด้วย

เตรียมงานนิทรรศการ

วันอังคารหน้าก็จะเป็นวันงานนิทรรศการญี่ปุ่น (นิฮงไซ) แล้ว นักศึกษามีความตื่นตัวในการจัดงานมากขึ้น (แม้จะยังไม่มากพออย่างที่อาจารย์คาดหวัง) เมื่อเช้าได้รับโปสเตอร์ประชาสัมพันธ์งานจากเอมี่ นักศึกษาปี 2 ที่มีความสามารถด้านศิลปะ รู้สึกชื่มชมในความสามารถของนักศึกษาคนนี้จริงๆ ออกแบบได้เก๋ไก๋ไฉไลมาก 

มิติใหม่ด้านการเงิน

My first Fund book ฉันเคยคิดอยากจะลงทุนมานานแล้วแต่ก็ติดอยู่กับความคิดที่ว่าฉันควรจะศึกษาเรื่องการลงทุนให้มากกว่านี้เพื่อป้องกันความผิดพลาดที่อาจทำให้ขาดทุน จนแล้วจนรอดฉันก็ไม่เคยหยิบหนังสือเกี่ยวกับการลงทุนมาอ่านเลย มีข้ออ้างมากมายที่จะนำมาใช้แก้ตัวว่าทำไมถึงไม่อ่านและแน่นอนว่าเมื่อไม่อ่านฉันจึงยังไม่เคยลงทุนอะไรเลย จนกระทั่งเมื่ออาทิตย์ที่แล้วฉันเกิดนึกอยากจะเปิดบัญชีของธนาคารเดียวกันเพิ่มอีกบัญชีหนึ่งเพื่อที่เวลาเงินเดือนเข้าฉันจะได้โอนเงินก้อนหนึ่งเข้าบัญชีใหม่เป็นเงินฝากโดยผ่านระบบ internet banking วันนี้พอมีเวลาว่างจึงไปธนาคาร เล่าความประสงค์ให้พนักงานฟัง ปรากฏว่าแทนที่ฉันจะได้บัญชีออมทรัพย์เพิ่มอีกหนึ่งบัญชีอย่างที่คิดไว้ กลับได้สมุดบัญชีกองทุนเปิดกรุงไทยตราสารหนี้ พลัส (KTPlus) มาแทน คือเอาเงินที่จะออมไปลงทุน...เป็นครั้งแรกในชีวิต ก่อนที่จะลงลายมือชื่อซื้อกองทุนพนักงานให้ฉันทำแบบสอบถามความสามารถในการรองรับความเสี่ยงในการลงทุน ผลออกมาว่าฉันสามารถรองรับความเสี่ยงได้ในระดับ 5 ซึ่งสูงกว่าระดับความเสี่ยงของกองทุนที่ซื้อในวันนี้หนึ่งระดับ คราวนี้ฉันคงจะได้ศึกษาเรื่องการลง...

เด็กตัดผม

ภาพน่ารักจากทางบ้าน จำได้ว่าเมื่อไม่กี่ปีก่อนการโน้มน้าวให้เด็กชายสองคนนี้ตัดผมเป็นเรื่องยากเย็นมากเรื่องหนึ่ง ถ้ารู้ว่าจะถูกพาไปร้านตัดผมจะร้องไห้งอแงไม่ยอมไปท่าเดียวอย่างกะว่ากำลังถูกพาไปตัดคอ แต่มาวันนี้ อ่ออ๊อย ภาพจากทางบ้านส่งมา สองพี่น้องพากันประจำที่นั่งรอตัดผมพร้อมกัน แถมได้ยินว่าเจรจาเลือกทรงผมกับช่างกันเองซะด้วย น่ารัก อดอมยิ้มไม่ได้เลย แต่นี่คงเป็นสัญญาณหนึ่งที่แสดงว่าหลานเล็กๆ ของป้า โตขึ้นมาอีกขั้นแล้ว

ทางสายบ้านสวน

ซุ้มต้นไม้บ้านสวนเทียนนา ไม่ได้ปั่นจักรยานออกกำลังกายชมวิวทิวทัศน์มาหลายสัปดาห์เพราะติดภารกิจสุดสัปดาห์หลายนัดติดต่อกัน เพิ่งจะมีโอกาสปั่นจักรยานยามเช้าอีกครั้งในวันนี้ เลือกเส้นทางที่ขับรถผ่านเป็นประจำเวลาไปทำงานเพราะคิดเสมอว่ามีแนวไม้สวยๆ เยอะ อย่างซุ้มต้นไม้ริมทางเข้าบ้านสวนเทียนนาก็น่าประทับใจ ตอนนี้ฤดูร้อนต้นไม้ไม่ค่อยมีใบก็ได้ชื่นชมความงามของกิ่งก้าน พอเข้าฤดูฝนใบอ่อนแตกเมื่อไหร่ก็น่าจะสวยไม่แพ้กัน สวยไปอีกแบบ จะว่าไปแล้วเมืองที่ฉันอยู่ตอนนี้มีสถานที่สวยงามน่าอยู่ซุกซ่อนอยู่เต็มไปหมด

เอ็นดูหมา

หมาป่วย ทุกวันนี้เกือบทุกครั้งที่กลับมาถึงบ้านถ้ายังไม่ค่ำหมาป่วยตัวนั้นจะต้องมารอรับที่หน้าบ้านอย่างกับว่าฉันเป็นเจ้าของ ดูเหมือนมันชอบมานอนตรงลานจอดรถหน้าบ้านฉันซะเหลือเกิน เดี๋ยวนี้มันผอมลงยิ่งกว่าเดิมเพราะกินอาหารไม่ค่อยได้ พี่ยีนพยายามสรรหาของที่น่ากินมาให้แต่มันก็ไม่ค่อยเจริญอาหาร คงเป็นเพราะอาการป่วย หมอบอกว่ามันเป็นมะเร็งที่อวัยวะเพศและเลือดจางเกินกว่าจะทำคีโมได้ ช่วงนี้หมอแนะนำให้ให้น้ำเกลือมัน แต่พวกเราก็ทำไม่สำเร็จเพราะไม่กล้าแทงเข็มเข้าไปในเส้นเลือดมัน กลัวมันเจ็บ (แล้วจะแว้งมางับมือคนด้วยแหละ) พยายามรักษาชีวิตตัวเองไว้นะหมานะ เอ็นดู

ตำรามาแล้ว

ตำราของพวกเรา ก่อนเข้าประชุมเครือข่ายภาษาญี่ปุ่นและญี่ปุ่นศึกษาประจำปี ฉันแวะเข้าตำราที่ช่วยกันพิมพ์เมื่อวานนี้ไปเข้าเล่มและแวะไปเอาหลังเลิกประชุมเมื่อเวลาประมาณบ่ายสาม ได้เห็นตำราเป็นเล่มแล้วชื่นใจจริงๆ (ในภาพหนังสือสองเล่มวางซ้อนกันเสียเส้นภูเขาด้านซ้ายต่อกันพอดีเหมือนเป็นเขาลูกเดียวกัน) ปล. จากการประชุมเครือข่าย ปีนี้ ม.พายัพจะต้องเป็นเจ้าภาพในการจัดพิธีมอบทุนการศึกษาของสมาคมหอการค้าญี่ปุ่นซึ่งมีกำหนดการวันที่ 11 พ.ย. 60

ตำราใกล้คลอด

ยุ่งขิงทั้งวันตั้งแต่เช้ายันค่ำ หลังเวลางานปกติ พี่เม อ.มาริ และฉันยังอยู่ช่วยกันพิมพ์ตำราที่แก้ไขแล้วกันต่อ กว่าจะเสร็จออกจากห้องทำงานฟ้าก็มืดจนต้องใช้ไฟฉายส่องทางลงบันได แต่ว่าตั้งแต่มาทำงานที่นี่ก็มีนานทีปีหนเท่านั้นที่จะกลับบ้านหลังพระอาทิตย์ตกดิน ครั้งนี้เราอยู่เย็นแล้วได้ตำราฉบับเกือบสมบูรณ์ (ที่ว่าเกือบเพราะยังไม่ได้เปลี่ยนภาพประกอบเพราะคนวาดยังวาดไม่เสร็จ) เตรียมเข้าเล่มส่งเป็นผลงานวิชาการอีกชิ้นหนึ่งของฉันและสาขา ก็คุ้มเหนื่อย  (^_-)-☆彡 พิมพ์กันเองทีละหน้า พิมพ์ปกสีต่อที่บ้าน

ห่อของด้วยฟุโระชิขิ

ภาพจากอินเตอร์เน็ต นิทรรศการญี่ปุ่น (นิฮงไซ) ของมหาวิทยาลัยพายัพปีนี้กำหนดจัดขึ้นในวันที่ 28 มีนา ฉันรับอาสาดูแลนักศึกษาปี 1 กลุ่ม "พับ ตัด ห่อ" เพราะเห็นว่าเป็นทักษะที่เมื่อได้ฝึกฝนแล้วจะสามารถนำไปใช้ในชีวิตจริงได้ ซึ่งจะต้องสาธิตการพับกระดาษ (โอริงะมิ) ตัดกระดาษเป็นลวดลายต่างๆ (คิริงะมิ) ห่อของขวัญและปกหนังสือด้วยกระดาษ และห่อสิ่งของต่างๆ ด้วยผ้าฟุโระชิขิ ตอนนี้ทั้งเด็กและครูต่างก็ทำไม่เป็นจึงต้องฝึก โอริงะมิ คิริงะมิ มีหนังสือแล้วแต่การใช้ฟุโระชิขิไม่หนังสือจึงเปิดยูทูปฝึกห่อตาม มีวิธีการห่อเยอะแยะไปหมด ดูแล้วทำตามได้ง่ายๆ น่าสนุกมาก

การบ้านหน้าประตู

แบบนี้ก็ได้เหรอ วิธีการที่นักศึกษาส่งงานเมื่อเช้านี้  !(⦿_⦿)! ก็พออภัยให้ได้เพราะไลน์มาบอกว่าเพิ่งนึกได้ว่าต้องไปออกค่ายตั้งแต่เช้านี้และจะไม่ได้เข้าเรียนในวันพรุ่งนี้จึงขอใช้วิธีนี้ ก็ถือว่ามีความเอาใจใส่ในการเรียน แต่อย่าทำบ่อยๆ ก็แล้วกันแม่คู้ณณณ

เกิดเหตุร้ายอย่านิ่งเฉย

ช่วงนี้ที่สาขามีข่าวคราวไม่น่าพึงใจบ่อย วันนี้ก็มีเรื่องนักศึกษาหญิงคนหนึ่งที่ไปเข้าค่ายที่ทางมหาวิทยาลัยจัดแล้วเกือบถูกข่มขืนโดยลูกชายเจ้าของบ้านที่ให้ที่นอน โชคดีที่ทำไม่สำเร็จ แต่สิ่งที่ไม่น่าพอใจคือเมื่อนักศึกษาเล่าให้อาจารย์ประจำบ้านฟังแล้ว อาจารย์กลับปิดเงียบไว้ไม่ยอมนำเรื่องไปพูดคุยกับอาจารย์ผู้ดูแลค่ายคนอื่นๆ ฉันเข้าใจว่าอาจารย์คนนั้นคงไม่อยากให้นักศึกษาคนอื่นรู้เรื่องแล้วตกใจกลัว การไม่บอกให้นักศึกษาในค่ายคนอื่นรู้อาจเป็นเรื่องที่ถูกต้องแต่ควรบอกให้อาจารย์คนอื่นทราบเพื่อขยายผลในการเฝ้าระวังนักศึกษาบ้านอื่นทั่วทั้งค่าย ตรงนี้ฉันไม่เห็นด้วยเอาเลย เห็นว่ามหาวิทยาลัยกำลังหามาตรการในการปกป้องสวัสดิภาพความปลอดภัยของนักศึกษาที่ไปออกค่าย ก็หวังว่าจะได้ยินอะไรที่ทำให้วางใจได้จากที่ประชุมนี้

อันเรียลละครไทย

นั่งดูตอนอวสานของละครเรื่อง คลื่นชีวิต แล้วเพลีย มันเป็นไปได้เหรอที่คนซึ่งเคยร้ายต่อกันชนิดจะเอาชีวิตกันให้ได้จะมารักใคร่ชนิดกอดกันกุ๊กกิ๊กมุ้งมิ้งอย่างไม่ตะขิดตะขวงใจ มันเป็นไปได้เหรอที่ผู้หญิงเห็นแก่เงิน ยอมใช้ทุกอย่างแลกเงินมาตลอดชีวิตจะกลายเป็นแม่พระผู้ปลงแล้วละแล้วซึ่งความโลภ กิเลสราคะทั้งปวงได้เพียงแค่บวชชี หนำซ้ำการกลับใจเป็นคนดีของเหล่าผู้ร้ายนี่ยังเกิดขึ้นในช่วงแค่สองวันก่อนละครอวสานอีกด้วย เป็นไปไม่ด้ายยย แต่ถ้าจะพยายามยัดเยียดให้มันเป็นไปได้ก็ควรจะต้องปูทางสร้างความเข้าใจในความคิดที่สะสมในใจจนทำให้ตัวละครสร้างจุดเปลี่ยนให้มากๆ หน่อย คนดูจะได้ไม่รู้สึกว่าถูกหลอก ไม่ใช่เน้นด่าทอตบตีกันเอามันเกือบทั้งเรื่องแล้วค่อยจับใส่ตะกร้าล้างน้ำทีเดียวตอนท้าย พูดไปสองไพเบี้ย อันเรียลสุดคือละครไทย

ความตายวัยคะนอง

บ่ายนี้ได้รับเมลแจ้งข่าวสารจากหัวหน้าสาขาว่านักศึกษาชายชาวญี่ปุ่นและชาวเนปาลที่มาแลกเปลี่ยนที่มหาวิทยาลัยเสียชีวิตด้วยอุบัติเหตุเมื่อเช้ามืดวันนี้ นักศึกษาชาวญี่ปุ่นคนนี้ฉันไม่เคยพบหน้าแต่เคยได้ยินวีรกรรมอยู่บ้าง คิดว่าคงเสียชีวิตหลังเดินทางกลับจากเที่ยวกลางคืน แต่ถึงอย่างไรก็อดสลดใจไม่ได้ นึกถึงพ่อแม่ของเขาจะเสียใจมากขนาดไหนที่ลูกชายซึ่งตนเองให้ออกไปใช้ชีวิตต่างประเทศเพื่อสร้างเสริมประสบการณ์กลับต้องจากไปชั่วนิรันดร์ ความตายเป็นสิ่งไม่อาจคาดเดาได้เลยว่าจะมาเยือนเมื่อไหร่ คนจะตายเลือกอายุ เลือกเวลาไม่ได้ นึกถึงขำขันอันนึงที่ว่าวัยรุ่นว่าหญิงวัยกลางคนคนหนึ่งว่าแก่ แล้วหญิงนั้นก็ตอบว่าเพราะนางโชคดีที่มีชีวิตยาวนานมาจนถึงจุดที่ถูกวัยรุ่นค่อนขอดเรื่องวัยได้โดยไม่ตายเสียก่อนต่างหาก ตลกแต่จริงนะ อนิจจา RIP

เตียวขึ้นพระบาทสี่รอย

กลางสัปดาห์ที่แล้วพี่ยีนบอกข่าวว่าวันที่ 11 จะไปออกโรงทานงานเตียวขึ้นวัดพระพุทธบาทสี่รอย ตอนแรกที่ฟังก็ไม่คิดจะไปเพราะอยากเคลียร์งานตำรา อีกทั้งในวันรุ่งขึ้นหลังบอกข่าวพี่ยีนก็บอกว่าไปไม่ได้แล้วเพราะเจ้าของบ้านมา แต่พอคิดไปคิดมาปีนี้งานประเพณีอุตส่าห์ตรงกับวันหยุดซึ่งไม่รู้ว่าปีหน้าและปีต่อๆ ไปจะตรงกับวันหยุดอย่างนี้อีกรึเปล่า อย่างปีที่แล้วตอนขับรถพาแนนกับเจี๊ยบไปเที่ยวได้ใบประชาสัมพันธ์งานมาก็ตรงกับวันทำงานจึงอด ครั้งนี้ก็เลยตัดสินใจไป จริงๆ ก็ไม่ได้ชอบงานประเพณีแห่แหนที่คนเยอะๆ หรอกแต่เพราะมีกิจกรรมเดินจากวัดหนองก๋ายที่เชิงเขาขึ้นวัดพระบาทซึ่งห่างกัน 16 กิโลนี่แหละจึงอยากไป ถือโอกาสออกกำลังกายเบิร์นไขมันไปในตัว มากกว่าบุญขอเบิร์นซัก 2-3 โล กำหนดการเดินเขียนไว้ว่าเริ่มเวลา 21:00 แต่พอถึงเวลาพิธีเจริญพระพุทธมนต์ก็ไม่มีวี่แววว่าจะเสร็จซะที เมืองไทยเรานี่หาองค์กรที่ตรงต่อเวลายากจริงๆ ไม่เว้นแม้แต่วัด จนเกือบห้าทุ่มก็ยังไม่ตั้งขบวน ตอนนั้นฉันเห็นบางคนเริ่มออกเดินทางล่วงหน้าไปก่อนแล้วจึงเอาบ้าง ดูเวลาที่เริ่มเดินประมาณ 22:40 เส้นทางไปวัดพระบาทราดคอนกรีตหมดแล้ว สะดวกสบาย และยังมีไฟฟ้า...

นำชมวัดพันเตา-วัดเจดีย์หลวง

วันนี้เป็นคิวของทีมตั๊น-แอนกับทีมแพร-เบลนำชมวัดพันเตาและวัดเจดีย์หลวงตามลำดับ ตั๊นกับแอนเก่งกว่ารุ่นน้องอยู่แล้ว ที่แก้ไขก็มีเพียงเรื่องลำดับการนำชม ส่วนแพรกับเบลนั้นพอๆ กับเด็กๆ ที่นำชมเมื่อวันพฤหัสฯ เรียกว่าภาษาพอใช้ได้ แต่ที่ต้องโดนหักคะแนนหนักหน่อยเพราะมาสาย กว่าจะมาถึงวัดก็เลยเวลานัดไป 15 นาทีแล้ว ทำยังไงเด็กๆ ถึงจะเข้าใจความสำคัญของการตรงต่อเวลานะ วัดพันเตา... ภาพจากอินเตอร์เน็ต วัดเจดีย์หลวง... ภาพจากอินเตอร์เน็ต

นำชมวัดสวนดอก-วัดอุโมงค์

เช้านี้นักศึกษาวิชาภาษาญี่ปุ่นสำหรับมัคคุเทศก์สอบนำชมสถานที่โดยรายการแรกปูเป้นำชมวัดสวนดอก ต่อจากนั้นป้ายกับอันนำชมวัดอุโมงค์ โดยพื้นฐานเด็กๆ มีความรู้ไม่แน่นทำให้ใช้สำนวนที่เป็นทางการเหมาะสมสำหรับไกด์ได้ แต่เห็นความตั้งใจของเด็กๆ จึงให้ใช้สำนวนง่าย ที่พวกเขาพูดเองได้และดูปัจจัยอื่นๆ เช่น ความสุภาพ ความเอาใจใส่ ความมีใจบริการประกอบ ซึ่งก็ทำได้ดีพอสมควร เราเป็นครูก็ต้องพยายามช่วยให้เด็กเก่งขึ้นโดยไม่บีบคั้นเกินไป วัดสวนดอก... ภาพจากอินเตอร์เน็ต วัดอุโมงค์... ภาพจากอินเตอร์เน็ต