ข้ามไปที่เนื้อหาหลัก

รึจะไฝว้ไอ้หัวงู

เคยได้ยินเขาว่ากันว่าสาวๆ ที่มาเที่ยวอิตาลีเป็นต้องโดนหนุ่มมะกะโรนีหลีกันทุกราย ฉันเดินทางรอบนี้ไปมาหลายที่แต่ไม่เคยเจออย่างว่าจนกระทั่งวันนี้ (~_~;)

ด้วยความเบื่ออาหารกลางวันของที่ประชุมที่มีแต่ขนมปังบันอันเบ้อเริ่มมีไส้แซลมอนบ้าง ซาลามีบ้าง มะเขือบ้างอยู่หน่อยนึง จึงตัดสินใจเดินกลับไปอุ่นพาสต้าทานที่ห้อง ระหว่างทางซึ่งเป็นถนนรถวิ่งทางเดียว ชายคนหนึ่งซึ่งขับรถแวนขนของอยู่ฝั่งที่ไม่ชิดฟุตบาทก็ตะโกนเรียกฉัน (ที่รู้ว่าเรียกฉันเพราะมีฉันอยู่คนเดียวที่เดินอยู่แถวนั้น) ให้ขึ้นรถจะไปส่ง ฮะ! ใจดีไปเปล่า ทีแรกก็รู้สึกเฮีย (ซึ่งก็หน้าตาดีนะ) ใจดีจังแต่เกรงใจเพราะอีกสองบล็อกก็ถึงที่พักแล้วจึงโบกไม้โบกมือส่ายหัวปฏิเสธไป... นึกว่าจะจบ เดินไปได้อีกนิดเดียวเฮียแกเล่นใหญ่ ขับรถมาจอดข้างฟุตบาทดักรออยู่ข้างหน้า พอฉันเดินมาถึงที่เฮียเขาจอดรถก็ถามฉัน (คุยกันรู้เรื่องได้ไงไม่รู้ คนนึงอิตาเลียน คนนึงอังกฤษ) ว่าจะไปไหน ฉันก็ตอบว่าไปแพม (ซุปเปอร์หน้าโรงแรม) เฮียก็ “อ๋อๆ แพม ขึ้นรถสิ เดี๋ยวไปส่ง” พูดพลางเอามือตบเบาะข้างคนขับ เฮ้ย! จากที่คิดว่าใจดีตอนนี้ชักกลัว อะไรคืออยากจะบริการขนาดจอดรถดัก ฉันเลยรีบปฏิเสธ “โนๆ แธ้งคิ่ว ไอแคนวอล์ค (ซ้ำหลายรอบ)” แล้วรีบเดินดุ่มต่อไป เฮียแกคงหัวเสียพุ่งรถออกไป... น่ากลัวอะ

นึกว่าจะเจอเฮียคนขับรถคนเดียว ตอนเย็นหลังกลับจากปิซ่าเป็นเวลาโพล้เพล้แต่ก็ยังไม่มืด ฉันเลือกเดินจากสถานีกลับจากที่พักด้วยเส้นทางลัดเข้าด้านหลังโรงแรม ระหว่างทางเจอลุง... น่าจะปู่ซะมากกว่า... ขี่จักรยานอยู่ข้างหลังปั่นมาเทียบข้างแล้วยิ้มให้ ฉันก็ยิ้มตอบตามปกติ แต่หลังจากนั้นพ่อปู่ก็จอดรถแล้วสอบถามฉันเป็นเรื่องเป็นราวว่าเป็นคนจีนเหรอ ไม่ คนญี่ปุ่นเหรอ ไม่... จะอยากรู้สัญชาติของคนอื่นอะไรกันนักกันหนาปู่เอ๊ย แต่จากนั้นสิ่งที่ไม่คาดคิดก็เกิดขึ้น ปู่นั่นจับข้อมือฉันแล้วบอก You are so nice. เป็นภาษาอังกฤษด้วยนะ แต่ไม่ปลื้มเลยค่ะ กลัวอะ สะบัดมือแล้วรีบเดินหน้ากลับที่พักทันที

นี่มันวันอะไรกันเนี่ย โดนคุกคามทางเพศถึงสองครั้งในวันเดียวเลย... นี่ขนาดฉันมีกฎของตัวเองว่าไม่เที่ยวตอนกลางคืน และกลับก่อนค่ำแล้วนะ ต่อไปคงต้องเพิ่มการเลือกเส้นทางที่ไม่เปลี่ยวแม้จะอ้อม (จริงๆ เส้นนี้ก็ไม่ถือว่าเปลี่ยวนะแค่คนน้อยกว่าอีกเส้น) หัดศิลปะการป้องกันตัวดีไหมหรือว่าพกมีดพับ


ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

ทาร์ตมะพร้าวอ่อนโอชิน

ที่มา FB เพจร้านขนมปังโอชิน เชียงใหม่ เชียงใหม่นี่นอกจากอากาศดี มีธรรมชาติที่สวยงามแล้ว อาหารการกินก็อร่อยและราคาถูกกว่ากรุงเทพฯ มาก เผลอๆ ถูกกว่าหาดเสี้ยวด้วยซ้ำ ตอนสายๆ ออกไปตามหาร้านขนมปังโอชินเพราะจะต้องจัดอาหารว่างสำหรับวันประเมินผลหลักสูตร (SAR) ในวันที่ 23 สค. นี้ เคยทานชุดอาหารว่างในหลายๆ งานที่ทางมหาวิทยาลัยจัดแล้วชื่นชอบทาร์ตมะพร้าวอ่อนจากร้านโอชินมาก พอสาขาภาษาญี่ปุ่นจะจัดงานบ้างก็เลยอาสาจัดเพราะอยากได้เบรคเป็นทาร์ตมะพร้าวอ่อน ร้านโอชินมีสาขาแม่ริมด้วย อยู่ในบริเวณปั๊มน้ำมันซัสโก้ตรงข้ามกับห้างแมคโคร ไม่ไกลจากบ้านมาก หาเจอโดยไม่หลงทาง เมื่อเจอร้านแล้วจึงซื้อทาร์ตมะพร้าวอ่อนมาทานหนึ่งกล่อง มีทั้งหมด 6 ชิ้น ราคากล่องละ 90 บาท คือถูกมากชนิดที่หาไม่ได้ในร้านกาแฟแน่นอน ทีแรกเห็นราคาในเว็บนึกว่าชิ้นละ 90 ซะอีก แค่นั้นยังไม่พอ Snack Box ก็ราคาถูกอย่างไม่น่าเชื่อ จากที่ได้งบมาชุดละ 50 บาท 15 ชุดและหวั่นว่าจะไม่พอ แต่ได้เห็นราคาจริงแล้ว โถ 20-30 บาทเท่านั้นเอง ได้กำรี้กำไรบ้างไหมนี่... แต่ก็คงได้แหละไม่งั้นคงไม่ตั้งราคาแบบนี้ ฉันเลยสั่งชุด 25 บาทไป 20 ชุดเลย งบยังเหลืออีกด...

เสวียนจ้าง บุรุษพุทธานุภาพ

เห็นข่าวภาพยนตร์ "เสวียนจ้าง บุรุษพุทธานุภาพ (Xuan Zang)" ตั้งหลายอาทิตย์ก่อนที่จะเข้าฉายในโรงหนัง SF ก็ปักหมุดทันทีว่าจะพลาดไม่ได้ ที่เชียงใหม่หนังเรื่องนี้มีฉายที่เมญ่าที่เดียวเท่านั้น ตอนกลางวันเข้าไปเช็ครอบฉายประจำสัปดาห์ในเว็บของ SF Cinema Maya ปรากฏมันเขียนว่าเสวียนจ้างจะเข้าฉายวันที่ 15 ก.ย. เขียนไว้แค่วันเดียวในขณะที่เรื่องอื่นเขียนรอบฉายไว้ทั้งสัปดาห์ ฉันเลยตัดสินใจไปดูรอบ 20:50 เพราะกลัวว่าหนังจะฉายแค่วันเดียวจริงๆ พลาดวันนี้ก็อาจจะพลาดเลย แต่พอไปถึงโรงหนังและสอบถามแล้วปรากฏว่าฉายทั้งสัปดาห์ โธ่เอ๊ย จะเขียนให้มันชัดเจนหน่อยก็ไม่ได้ ด้วยเหตุนี้ก็เลยกลับถึงบ้านเอาเกือบเที่ยงคืนเพราะหนังจบห้าทุ่ม Huang Xiaoming เป็น Xuan Zang แต่ยังไงก็ต้องบอกว่าเป็นหนังที่ประทับใจมากเรื่องหนึ่ง ทั้งที่เนื้อเรื่องไม่ได้มีอะไรมากไปกว่าการเล่าเรื่องการเดินทางจากจีนไปอินเดียของพระภิกษุหนุ่มชาวจีนชื่อ "เสวียน จ้าง" หรือที่คนไทยเรารู้จักกันในชื่อพระถังซัมจั๋ง (นำแสดงโดย หวง เสี่ยวหมิง หล่อมากกกก) บนเส้นทางสายไหมที่ทั้งงดงามอลังการไปด้วยภูมิประเทศที่ยิ่งใหญ่และแปลกตา ท...

เป็นบัณฑิตอีกครั้ง

ฉันเพิ่งรู้ข้อดีอีกอย่างหนึ่งของอาชีพอาจารย์มหาวิทยาลัยคือการได้สวมชุดครุยในพิธีประสาทปริญญาบัตรประจำปีในฐานะอาจารย์ ฉันรู้สึกตื่นเต้นมากเพราะตั้งแต่จบปริญญาตรีจากมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ก็ไม่เคยได้สวมครุยอีกเลย ตอนจบโทที่ TUFS ก็มีครุย เขาให้แต่งสูทหรือไม่ก็ฮาคามะ และเนื่องจากทางมหาวิทยาลัยพายัพไม่สามารถจัดหาครุยสำหรับอาจารย์ที่จบการศึกษาจากมหาวิทยาลัยต่างๆ จากต่างประเทศให้ได้จึงจัดครุยของมหาวิทยาลัยเชียงใหม่กับฮู้ดของมหาวิทยาลัยพายัพให้ ครุยของ มช. สีดำกับฮู้ดของพายัพสีฟ้าก็ดูสวยดีแบบเรียบๆ ไม่ฉูดฉาด วันนี้เป็นวันซ้อมใหญ่พิธีประสาทปริญญาบัตร ช่วงเช้าคณาจารย์จะสวมครุยไปร่วมถ่ายภาพหมู่เป็นที่ระลึกกับนักศึกษาในคณะที่อาคารสายธารธรรมซึ่งมีลักษณะเป็นสนามกีฬาในร่มที่เปิดโล่ง ฝนก็เทกระหน่ำลงมาแต่เช้าแต่ตกต่อเนื่องไปตลอดทั้งวัน ทำให้กำหนดการถ่ายภาพที่เริ่มตั้งแต่ประมาณ 7:00 และจะเสร็จสิ้นในเวลาไม่เกิน 11:00 นั้นล่าช้าออกไปกว่าสองชั่วโมง แต่บัณฑิตทุกคนก็อดทนได้เพื่อวันสำคัญวันหนึ่งในชีวิต ฝนก็ช่างเรื้อรังเสียจริงๆ จนช่วงเย็นที่นักศึกษาต้องจะซ้อมใหญ่ก็ยังตกไม่ขาดสายทำให้ไม่สามารถซ้อมเดินเข้า...