ริซอตโต้ที่เตรียมเองทุกเช้า |
วันนี้ต้องจากพราโต้ เมืองเล็กๆ ที่หลงรักตั้งแต่เช้าตรู่ การอยู่ที่นี่หลายวันในห้องอพาร์ทเม้นท์ที่มีครัวให้แถมมีซุปเปอร์อยู่ฝั่งตรงข้ามนั้นทำให้ประหยัดงบเรื่องอาหารการกินมากเพราะซื้ออาหารสำเร็จรูปแช่แข็งมาอุ่นทานเองทุกเช้า ซึ่งสิ่งที่เลือกซื้อมาเป็นอาหารเช้าคือริซอตโต้ (เมนูข้าวของอิตาลี) ทำให้ได้กินข้าวทุกวัน รู้สึกเหมือนมาใช้ชีวิตต่างแดนแบบสมัยเรียนมากกว่ามาธุระระยะสั้นซะอีก เช้านี้ก็เช่นกัน เนื่องจากของกินที่ซื้อมาตุนไว้ยังเหลืออีกแพ็กเลยยังต้องอุ่นอาหารทานตอนประมาณตี 5:50 อ้อ โค้กอิตาลี (ที่เด็กฟลอเร้นซ์อยากได้นัก) มันซ่ากว่าโค้กบ้านเราอีกแฮะ... ทานอาหารเช้ามากเรียบร้อยแล้วจึงออกมาขึ้นรถไฟเที่ยว 6:35 มาต่อรถไฟด่วน Frecciarossa ไปมิลาน
ระบบรถไฟของยุโรปน่าจะพูดได้ว่าเป็นเครือข่ายคมนาคมที่ซอกซอนถึงท้องถิ่นต่างๆ ได้มากที่สุดในโลกในระดับทวีป (ถ้าเทียบในระดับประเทศ ญี่ปุ่นคงเป็นตัวเก็งอันดับหนึ่ง ไม่กล้าฟันธงเพราะไม่มีข้อมูลประกอบ) รูปลักษณ์ของรถไฟก็เก๋ไก๋ (คล้ายรถไฟฟ้าที่กรุงเทพฯ นั่นแหละเพราะเราเอาของเขาไป) แต่สิ่งที่น่าทึ่งยิ่งกว่าอะไรทั้งหมดคือเขาใช้ระบบทรัสต์ คือไว้วางใจผู้โดยสาร จึงไม่มีประตูเข้าชานชลาแบบตรวจตั๋วอัตโนมัติ ตั๋วของเขาเป็นแบบเปิดระยะเวลาโดยสารไว้กว้างๆ ผู้โดยสารสามารถเดินเข้าไปชานชลาได้โดยไม่มีระบบตรวจใดๆ ถ้าอยากไปส่งใครขึ้นรถไฟก็สามารถไปส่งถึงชานชลาได้สบายๆ หากจะโดยสารรถเมื่อไหร่ก็เอาตั๋วที่ซื้อไว้ไปประทับวันที่ (validate) ก่อนขึ้นรถ ระบบไว้เนื้อเชื่อใจนี้มิใช่เพียงระบบรถไฟเท่านั้นแต่ดูเหมือนจะใช้กับทุกๆ ระบบสาธารณะ เช่น บัส แทรม ที่จอดรถ ฯลฯ น่าชื่นใจกับความซื่อสัตย์ของพลเมืองบ้านเขาจริงๆ
อีกไม่กี่ชั่วโมงก็ต้องบินยาวนานแล้ว แถมยังต้องแวะพักที่สนามบินดูไบอีกตั้ง 13 ชั่วโมง จะมีที่ดีๆ ให้นอนไหมและจะทำอะไรอยู่ในสนามบินดี
ปล. วันนี้เขียนบันทึกในตอนเช้าบนรถด่วนเฟรคเซียรอสซ่า วิวท้องทุ่งเกษตรกรรมระหว่างทางจากทัสคานีไปลอมบาร์ดีสวยสดชื่นมากแม้อากาศจะขมุกขมัวเพราะฝนพรำ (เป็นครั้งแรกที่มีฝนในตลอดการเดินทางของฉันแต่วันนี้เป็นวันบินนะ!)
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น