The Sister Diary

7 รางวัลลูกโลกทองคำ วันนี้อาจเป็นวันฉายในโรงวันสุดท้ายของ La La Land หนังเพลงที่ได้รับคำชื่นชมอย่างหนาหูมาตั้งแต่ช่วงปลายปีที่แล้ว หนังสนุกตอนเริ่มต้นแต่ขมขื่นในตอนท้าย ชื่นชอบภาพโทนสีสวย เรื่องไม่ซับซ้อนแต่เต็มไปด้วยอารมณ์ เพลิดเพลินกับบทเพลงและการเต้น แต่รู้สึกหัวเสียกับนางเอกในตอนท้าย เป็นตอนจบแบบไม่สมหวังที่สื่อออกมาได้อย่างเจ็บปวดแต่ก็ต้องยอมจำนน ฉันถึงกับน้ำตาร่วงทั้งๆ ที่หัวเราะมาเกือบตลอดเรื่อง ออกจากโรงหนังจนกลับมาถึงบ้านยังรู้สึกหัวเสียกับนางเอกที่เลือกชายอื่นเคียงข้างในยามที่ตนเองโด่งดังแล้ว ทั้งที่พระเอกเป็นคนสนับสนุนผลักดันให้นางเดินตามความฝันมาตลอด... แต่ชีวิตจริงก็เป็นอย่างนี้ สรุปคือชอบนะแต่ขอหัวเสียต่ออีกนิด

เหนื่อยกับการแก้ไขบทความทั้งวันจึงให้รางวัลตัวเองด้วยการไปดูหนังเรื่อง Arrival หลังเลิกงาน หนังเรื่องนี้ทำให้รู้สึกว่าการเป็น linguist ก็เท่ไม่เบา ดร.แบ๊งค์ นางเอกเป็นอาจารย์สอนภาษาศาสตร์ (ซึ่งฉากเลคเชอร์ในมหาลัยนี้เมื้อนเหมือนชีวิตตัวเอง) ไปปฏิบัติภารกิจสื่อสารกับเอเลี่ยนเพื่อช่วยโลก หนังสร้างได้ชวนติดตามดี มีชื่อซาเพีย วอร์ปโผล่มาด้วย นี่ถ้าอ้างชื่อนอม ชอมสกี้อีกคนละก็ นี่มันเป็นการฟังบรรยายวิชาการภาษาศาสตร์ชัดๆ ฮ่าๆๆ

ร้องไห้ตั้งแต่ต้นเรื่องยันท้ายเรื่อง ทีแรกก็ร้องเพราะเวทนาชีวิตเด็กๆ ชาวอินเดีย ช่างยากไร้อัตคัดขัดสนเหลือเกิน จากนั้นก็ร้องให้กับความรู้สึกอยากกลับบ้านเกิดของพระเอก สุดท้ายร้องไห้ดีใจที่พระเอกได้พบบ้านและแม่ที่จากมานานในที่สุด Dev Patel ถ่ายทอดออกมาได้ดีมาก ฝีมือพัฒนาจากตอนแสดง Slum Dog Millionaire เยอะเลย หล่อล่ำขึ้นด้วย หุหุ

นายสารพัดช่างของฉัน นายสารพัดช่างจากจอมทองมาช่วยซ่อมแซมอุปกรณ์ไฟฟ้าและน้ำประปาที่บ้านให้ ทำงานเสร็จจึงพานายช่างไปเอ็มเค ทานอาหารชุดปีใหม่ (โอเซจิเรียวริ) นายช่างเจริญอาหารมาก กินอะไรก็อร่อยไปหมด แถมขอเป็นเจ้ามือเองด้วย เห็นนายช่างมีความสุขฉันก็ดีใจ รึจริงๆ ดีใจที่อิ่มจังตังค์อยู่ครบก็ไม่รู้ อุอิ

ฝนตกปรอยๆ แต่เช้าตรู่ ฟ้าก็ครึ้มตลอดทั้งวัน เป็นสภาพอากาศวันขึ้นปีใหม่ ที่ไม่ค่อยจะได้พบเจอ ยังดีที่ฝนไม่ได้ตกหนักจนทำ ให้ประเพณีตักบาตรปีใหม่ล่ม  ป้า แม่และฉันจึงได้ตักบาตรร่วม กันเป็นสิริมงคลแต่ต้นปี ฉันชอบการตักบาตรปีใหม่ที่บ ้านหาดเสี้ยวเพราะได้สวมผ้า ซิ่นอย่างไม่เคอะเขินเพราะช าวบ้านส่วนใหญ่เขาใส่กัน